google-site-verification=G7snYi1Iu_QoF4keh_9xHi0_IDTFhBbfUuUax3VTDjY

พยาธิตัวตืด (Tapeworms)

                                                  พยาธิตัวตืด (Tapeworms)


วงจรชีวิต

                                                                      

                                        https://vcahospitals.com/know-your-pet/tapeworm-infection-in-dogs

          พยาธิตัวตืดในลำไส้ที่พบมากในสุนัขและแมว คือพยาธิตัวตืดเม็ดแตงกว่า (Dipylidium Caninum) พยาธิตัวเต็มวัยมีขนาดยาวได้ถึง 20 ซม. แต่ละปล้องมีความกว้างประมาณ 3-5 มล. มีปากเป็นตะขอสำหรับยึดเกาะดูดสารอาหารที่ลำไส้ พยาธิจะเพิ่มขนาดจากส่วนหัวไล่ลงไป เมื่อโตเต็มที่แล้วพยาธิจะขยายพันธ์ด้วยวิธีปลดปล้องในส่วนท้ายลำตัว ปะปนออกไปกับอุจจาระของสัตว์เลี้ยง ซึ่งปล้องเหล่านี้จะมีลักษณะสีขาวคล้ายกับเม็ดข้าว หรือเมล็ดแตงกวา เจ้าของสัตว์เลี้ยงอาจจะสังเกตุพบปล้องพยาธิเหล่านี้ได้บริเวณรอบก้อน หรือในอุจจาระของสุนัขที่เพิ่งขับถ่าย

          ปล้องแก่ของพยาธิเหล่านี้เต็มไปด้วยไข่พยาธิ เมื่อสภาพวดล้อมเหมาะสมไข่พยาธิจะแตกออกมา จากนั้นตัวอ่อนของหมัด (larva flea) และหนูจะกินไข่พยาธิพวกนี้เข้าไป จากนั้นก็จะเติบโตอยู่ในตัวหมัด หากสุนัขและแมวติดหมัด แล้วบังเอิญเผลอกินหมัดเข้าไปจากการเลียขนตัวเองหรือจากการคันแล้วกัดแทะตัวเอง ก็จะทำให้ติดพยาธิตัวตืดเข้าสู่ทางเดินอาหาร


                                                  

                                     https://vcahospitals.com/know-your-pet/tapeworm-infection-in-dogs

อาการ

อาการอาจจะรุนแรงมากขึ้นหากติดในลูกสุนัขหรือลูกแมว โดยส่วนมากจะทำให้มีอาการดังนี้

  • ท้องเสีย อาจจะมีเลือดปนมากับอุจจาระ
  • สุนัขหรือแมวมีอาการคันก้น หรือเอาก้นไถไปกับพื้น
  • มีความอยากอาหารน้อยลงหรืออาจจะมากขึ้น
  • น้ำหนักลด ตัวผอม
  • ขนหยาบ แห้งกร้าน ไม่เงางาม
  • มีอาการท้องกาง ปวดท้อง หรือไม่สบายท้อง

การรักษา

          สัตวแพทย์จะแนะนำให้สัตว์เลี้ยงได้รับยาถ่ายพยาธิ ขนาดยาตามน้ำหนักตัว โดยทั่วไปอาจจะแนะนำให้รับประทานยาถ่ายพยาธิ 3 วันติดกันหรือตามความเห็นสัตวแพทย์ และหลังจากนั้นควรได้รับการป้องกันการถ่ายพยาธิอย่างน้อยทุก 3 เดือน แต่ไม่ควรเกิน 6 เดือน

การป้องกัน

  • ป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงสัมผัสกับหมัด หรือหนู
  • ไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงกินของที่มีความเสี่ยงติดพยาธิ เช่น เนื้อหมู เนื้อปลา กระต่าย หนู และขยะ
  • หมั่นพาสัตว์เลี้ยงไปตรวจร่างกายและตรวจอุจจาระตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
  • ควรมั่นใจว่สัตว์เลี้ยงได้รับการถ่ายพยาธิตามโปรแกรมอยู่เป็นประจำ

 

                                                ช่วงอายุของสัตว์เลี้ยง อายุ / ความถี่ของการถ่ายพยาธิ
ลูกสุนัขและลูกแมว 2, 4, 6, 12,16 สัปดาห์
สุนัขและแมวโตเต็มวัย 6, 12 เดือน
  • เลี้ยงในบ้านตลอดเวลา
ทุก 6 เดือน - 1 ปี
  • เลี้ยงทั้งในและนอกบ้าน
ทุก 6 เดือน
  • เลี้ยงปล่อยนอกบ้านและมีนิสัยชอบล่าสัตว์ตัวเล็กๆ หรือกินน้ำในแหล่งธรรมชาติ
ทุก 3 เดือน


 
บทความโดย สพ.ญ. นิรชรา ชมท่าไม้ (คลินิกอายุรกรรม, คลินิกระบบประสาท โรงพยาบาลสัตว์เมืองเอก)